จากกรณี เพจชื่อดังได้โพสต์ภาพและข้อความ ถึงการจับกุมเป็นปมร้อนในโลกออนไลน์ เมื่อเพจ #สถานีตำรวจภูธรเมืองสระบุรี โพสต์ภาพตำรวจจับกุมชายอายุ 26 ปี พร้อมของกลาง บุหรี่ไฟฟ้า 1 ชิ้น ก่อนโพสต์ ภาพการจับกุมลงในเพจของสถานีตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองสระบุรี และเกิดการวิพากษ์วิจารณ๋เป็นกระแสดรามาการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นคือเมื่อวันที่15 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 01.05 น.ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งมีกลุ่มวัยรุ่น จับกลุ่มกันขี่รถจักรยานยนต์วนไปวนมา ที่บริเวณริมคลองชลประทานบ้านบึง ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี จึงได้ทำการลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบ นาย กานต์ อายุ 26 ปี พร้อมกับเพื่อนรวม 4 คน โดยนาย กานต์ ขับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 123 สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 1 กย 1653 ลพบุรี ท่าทางมีพิรุธ พยายามจะขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกให้หยุดและขอตรวจค้น ผลการค้น ไม่พกพาใบอนุญาตขับรถติดตัว / ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนแสดงการเสียภาษี / ไม่เสียภาษีประจำปี / ดัดแปลงสภาพรถ / ท่อเสียงดัง นอกจากนี้พบบุหรี่ไฟฟ้า ยี่ห้อ Salthub จำนวน 1 อัน ซ่อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อ โดยนาย กานต์ฯ รับว่าเป็นของตนเองจริง จึงได้แจ้งข้อหา “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพา เอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ

และจากการตรวจสอบรถจักยานยนต์ของกลุ่มนาย กานต์ พบว่าแต่ละคันนั้นแทบจะไม่มีเอกสาร เช่นจากการตรวจสอบรถจักรยานยนต์คันที่ 2 ของ นายคงศ์ศักดิ์ รุ่น Honda Wave110i สีน้ำเงิน-ดำ หมายเลขทะเบียน 1 กร 6309 สระบุรี ไม่พกพาใบอนุญาตขับรถติดตัว / ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนแสดงการเสียภาษี

คันที่ 3 ของ นายราเมศ  จักรยานยนต์ รุ่น Honda Wave125 สีน้ำเงิน  ไม่พกพาใบอนุญาตขับรถติดตัว / ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถ ไม่พกสำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ / ท่อเสียงดัง

คันที่ 4 ของ นางสาวอมราพร จักรยานยนต์ รุ่น Honda Wave125R สีส้ม หมายเลขทะเบียน 1 กร 224 สระบุรี ไม่พกพาใบอนุญาตขับรถติดตัว / ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนแสดงการเสียภาษี ไม่พกสำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ / ดัดแปลงสภาพรถ / ท่อเสียงดัง

จึงยึดรถจักยานยนต์และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนาย กสานต์ฯ และปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่มีหลักทรัพย์ฯ และได้นัดให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 30 เม.ย. 68 เวลา 13.00 น.เพื่อได้ดำเนินการสอบสวนต่อไป

ล่าสุด วันที่ 16 มีนาคม 2568 พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี ได้ออกมาเปิดเผยถึงกรณีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ สภ.เมืองสระบุรี ดังกล่าวว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการสายตรวจได้เข้าไปตรวจสอบเหตุชาย 3 หญิง 1 คน จนนำมาสู่การจับกุมนั้น เนื่องจากได้รับการรับแจ้งจากประชาชน มีกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมส่งเสียงดังในยามวิกาล ซึ่งในขณะเข้าตรวจสอบนั้นเป็นเวลา 01.05 น. ซึ่งดึกมากแล้วแต่กลุ่มวัยรุ่นยังขับรถจักรยานยนต์ก่อให้เกิดเสียงดังรบกวนชาวบ้าน และหลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์ไม่มีเอกสารบ้าง แต่งท่อเสียงดังบ้างจึงต้องทำการยึดรถไว้ก่อนเพื่อตรวจสอบ

ส่วนกระแสดรามาในการจับบุหรี่ไฟฟ้าเพียงอันเดียวนั้น พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี กล่าวต่อว่า ทั้งหมดนั้นเป็นเข้าตรวจสอบกลุ่มบุคคลที่ต้องสงสับในยามวิกาล และเมื่อเจ้าหน้าที่ได้พบการพกพา ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และที่สำคัญเป็นนโยบายเร่งด่วนของ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.ในการกวาดล้างจับกุม ทั้งผู้นำเข้า ผู้ขาย ผู้บริการต่างๆและผู้ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเข้มงวด ทางเจ้าหน้าที่จึงมิอาจปล่อยผ่านละเลยไปได้จึงต้องทำการตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าและตั้งข้อหาตามกฎหมาย

พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี กล่าวต่อว่า การมีบุหรี่ไฟฟ้าในครอบครอง ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย เพราะเป็นของต้องห้ามนำเข้า ผู้ใดรับไว้โดยประการใดซึ่งของที่ต้องห้ามนำเข้า มีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับ 4 เท่าของราคา พร้อมภาษีที่ยังไม่ได้จ่าย ตามพระราชบัญญัติศุลกากร

หากพบบุคคลใดว่าครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจสามารถใช้มาตรา 246 ว่าด้วย ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 242 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

เพราฉะนั้นการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำเพื่อเป็นการักษากฏหมาย ทั้งตามนโยบายผู้บังคับบัญชา และการปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้อง มิได้ตั้งใจจับเพียงบุหรี่ไฟฟ้าแต่สืบเนื่องจากการกระทำผิดกฎหมายด้านจราจร เช่นการไม่พกพาใบขับขี่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนและอื่นๆ จนนำมาสู่การตรวจค้นจนเจอสิ่งผิดกฏหมายดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด บุหรี่ไฟฟ้า หรือแม้สิ่งผิดกฏหมายเพียงอันเดียวก็ต้องจับ

ตนเองอยากฝากถึงกลุ่มเยาวชน วัยรุ่น อย่าได้ออกมามั่วสุมยามวิกาลโดยเฉพาะหลัง 00.00 น.และทำในสิ่งที่เกิดปัญหาแก่สังคมและตัวเองให้คิดถึงพ่อ แม่ ผู้ปกครอง ว่าความเหน็ดเหนื่อยกว่าจะเลี้ยงเราโตมา ตนเองเป็นคนสระบุรี อยากเห็นลูกหลานเป็นคนดี มีอนาคตที่ดี และสังคมของประชาชนต้องสงบสุข ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา